อาการสารพิษตกค้างในร่างกาย พร้อมวิธีล้างสารพิษอย่างปลอดภัย

ในการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคน ต่างมีเหตุการณ์ที่ทำให้ได้รับเอาสารพิษเข้าสู่ร่างกาย และมีโอกาสที่สารพิษจะตกค้างอยู่ภายในร่างกายทุกวันๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับเอาฝุ่นควัน PM2.5 การสูบบุหรี่ หรือไปอยู่ในที่ที่มีคนสูบบุหรี่ การทาครีม แต่งหน้า ทำสีผม หรือแม้แต่การกินอาหารหมักดอง ทานเนื้อสัตว์ที่มีสารเร่งโต เป็นต้น สารพิษเหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายของเรา แล้วไม่ได้ทำการล้างสารพิษออกมา จะทำให้เกิดเป็นสารพิษตกค้างในร่างกายได้นั่นเอง

 อาการสารพิษตกค้างในร่างกาย มีอะไรบ้าง?

เมื่อสารพิษตกค้างในร่างกายแล้วไม่ได้รับการล้างหรือบำบัดออก นานวันเข้าสารพิษเหล่านั้นจะเริ่มส่งผลเสียต่อสุขภาพทีละเล็กทีละน้อย มาเช็กอาการที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีสารพิษตกค้างในร่างกาย เพื่อช่วยให้ทุกคนรู้ว่าถึงเวลาที่ต้องล้างสารพิษออกจากร่างกายบ้างแล้ว

1. มีอาการมึนหัว
2. ผมร่วงมากกว่าปกติ (โดยปกติผมจะร่วง 50-100 เส้นต่อวันแต่ถ้ามากกว่านั้น เป็นสัญญาณความผิดปกติแล้วละ)
3. รู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า
4. เล็บเปราะบางและฉีกหักง่าย
5. มีกลิ่นปาก
6. มีอาการวิงเวียนศีรษะ ไปจนถึงคลื่นไส้
7. อ้วนง่าย

สารพิษตกค้างในร่างกาย เกิดจากอะไรได้บ้าง?

1. น้ำหอมหรือโคโลญ

สารเคมีในน้ำหอมอย่าง Benzaldehyde, Camphor, Ethyl Acetate, Benzyl Acetate, Linalool, Acetone หรือ Methylene Chloride สามารถซึมเข้าสู่ร่างกายได้ จนอาจทำให้เกิดเป็นสารพิษตกค้างในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อระบบอวัยวะภายในในอนาคตได้

2. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

การซักล้างทำความสะอาด อย่างเช่น การซักผ้า การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม การล้างจาน หรือแม้แต่การฉีดสเปรย์ปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนมีสารเคมีที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ผ่านการสูดดม การสัมผัสด้วยผิว หรือการรับประทานเข้าไป ซึ่งเป็นสาเหตุของสารพิษตกค้างในร่างกาย

3. น้ำดื่มในขวดพลาสติก

เนื่องจากหากมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ขวดพลาสติกจะปล่อยสารเคมีบางอย่างออกมา และถึงแม้จะไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในทันที แต่สารเคมีตัวนี้จะเข้าไปสะสมอยู่ภายในร่างกาย จนเกิดเป็นสารพิษตกค้าง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายๆ โรงงานในประเทศเยอรมันนีเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มจากขวดพลาสติกเป็นขวดแก้วหรือขวดสแตนเลสแทน

 4. เครื่องสำอาง

เครื่องสำอางบางยี่ห้อหรือบางชนิด ถูกผลิตขึ้นจากส่วนประกอบหรือสารที่ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายขณะใช้ แต่หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน สารเหล่านั้นก็จะเข้าไปสะสมในร่างกาย จนอาจก่อให้เกิดอาการต่างๆ ของภาวะสารพิษตกค้างในร่างกายได้เช่นกัน

5. อาหารที่มีการปนเปื้อน

อาหารส่วนใหญ่ที่เป็นสาเหตุของอาการสารพิษตกค้างในร่างกาย ประกอบไปด้วย อาหารหมักดอง อาหารที่ใส่สารกันบูด รวมถึงเนื้อสัตว์บางชนิดที่มีการปนเปื้อนของสารเร่งโต เมื่อรับประทานเข้าไป สารเคมีเหล่านี้จะไปตกค้างอยู่ในร่างกายได้นั่นเอง

6. ฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ

อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นต้นเหตุสำคัญของอาการสารพิษตกค้างในร่างกาย อย่างฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่มีใครหนีพ้น โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองใหญ่ๆ ที่ต้องเผชิญทั้ง PM 2.5 ควันรถยนต์ รวมถึงฝุ่นจากไซต์งานก่อสร้าง ที่เมื่อสูดดมเข้าไปมลภาวะเหล่านี้ก็จะไปสะสมอยู่ในร่างกาย และกลายเป็นสารพิษตกค้างที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคต

อันตรายที่เกิดจากสารพิษตกค้างในร่างกาย

อาการของสารพิษตกค้างในร่างกาย จะเริ่มจากอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ยอมล้างสารพิษในร่างกาย อาจก่อให้เกิดโรคร้ายแรงที่จะทำลายสุขภาพในระยะยาวได้ เนื่องจากสารพิษเหล่านั้นจะเข้าไปทำลายพลังงานในร่างกายที่สามารถช่วยสร้างฮีโมโกลบินที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบไหลเวียนเลือด ซึ่งจะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังลดประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ ในร่างกาย จนก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็น

1. โรคมะเร็ง
2. โรคปอดอักเสบจากสารเคมี
3. โรคพาร์กินสัน
4. โรคหัวใจและหลอดเลือด

วิธีล้างสารพิษในร่างกาย เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีกว่าเดิม

1. งดดื่มแอลกอฮอล์

การไม่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นวิธีที่ดีในการล้างสารพิษในร่างกาย เพราะนอกจากจะช่วยลดปริมาณของสารพิษที่ตกค้างในร่างกายแล้ว ยังทำให้ตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ในการขับสารพิษ สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย

2. ทานอาหารที่มีประโยชน์

การทานอาหารที่มีประโยชน์ จะสามารถช่วยบำรุงร่างกายพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภายใน จนทำให้ร่างกายสามารถขับสารพิษตกค้างในร่างกายออกมาได้เอง อย่างเช่น อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น อาหารที่มีวิตามิน A, C และ E อาหารที่มีไลโคปีนและลูทีน รวมถึงอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ ที่ช่วยบำรุงและเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร เป็นต้น

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนถือเป็นการฟื้นฟูร่างกายอย่างหนึ่ง เพราะถ้าหากเราพักผ่อนเพียงพอและมีประสิทธิภาพ จะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายได้รับการฟื้นฟูและสามารถกลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นวิธีล้างสารพิษในร่างกายที่ทุกคนควรปฏิบัติตาม

4. ออกกำลังกาย

ทุกคนทราบกันดีว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อร่างกายคนเรามากแค่ไหน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยล้างสารพิษในร่างกายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้เหงื่อออก ซึ่งหากเราออกกำลังกายทุกวัน หรือประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยให้สารเคมีในร่างกายบางชนิดถูกขับออกมาพร้อมเหงื่อนั่นเอง

5. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบออร์แกนิก

ในปัจจุบันมีบริษัทผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหลายบริษัทที่คำนึงถึงปัญหาสารพิษตกค้างในร่างกาย ทำให้ตามท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายหรือสินค้าที่เคลมว่าไม่มีสารพิษตกค้างวางขายอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น ทางที่ดีจึงควรเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ดู เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่สารพิษจะเข้าไปตกค้างและสะสมอยู่ภายในร่างกาย

3 เครื่องดื่มแนะนำที่ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย

มีผักผลไม้มากมายที่มีสรรพคุณช่วยบำบัดสารพิษในร่างกาย อย่างเช่น แตงกวา, มิ้น, เลมอน, ขิง, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่, ส้ม, เกรปฟรุต และโรสแมรี่ เป็นต้น ไฮโดรเฮลท์ขอชวนทุกคนมาทำเครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้ทุกวัน เพื่อเป็นการบำบัดและล้างสารพิษตกค้างในร่างกายกัน

1. น้ำหมัก หรือ Infused Water

เป็นเครื่องดื่มที่เด่นเรื่องความสดชื่น แถมยังทำง่ายสุดๆ เพียงแค่เตรียมน้ำดื่มสะอาดๆ แล้วนำสมุนไพร อย่างโรสแมรี่หรือมิ้นใส่เข้าไป แล้วตามด้วยผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวหวาน อย่างส้ม เลมอน หรือเบอร์รี่ หั่นให้สวยงามก่อนนำลงไปผสม จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1-2 ชม. เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำหมัก หรือ Infused Water ที่มีคุณสมบัติช่วยล้างสารพิษในร่างกายแล้ว

2. น้ำแครอทผสมส้มปั่น

เมนูน้ำปั่นที่เต็มไปด้วยเบตาแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่เป็นสารอาหารที่ดี รวมถึงโพรไบโอติกส์ที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย จึงเป็นหนึ่งในเมนูเครื่องดื่มที่สามารถช่วยล้างสารพิษตกค้างในร่างกายได้เป็นอย่างดี

3. ชาน้ำผึ้งมะนาวใส่ขิง

นอกจากกลิ่นของใบชา น้ำผึ้ง และมะนาว จะช่วยสร้างความผ่อนคลายให้เราแล้ว ส่วนผสมทั้งหมดของเครื่องดื่มเมนูนี้ อย่างน้ำผึ้ง มะนาว และขิง ที่ใส่เข้าไปในชาร้อนๆ ยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี

การล้างสารพิษตกค้างในร่างกายด้วยตัวเองตามวิธีที่แนะนำไปข้างต้น เป็นเพียงการช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถขับสารพิษออกมาได้บางส่วนเท่านั้น ยังมีสารพิษบางชนิดที่จะต้องพึ่งพานวัตกรรมและผู้เชี่ยวชาญมาช่วยวิเคราะห์และหาวิธีกำจัดสารพิษเหล่านั้นออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ 

ซึ่งทุกคนสามารถเข้ามาปรึกษากับทีมผู้เชี่ยวชาญที่ไฮโดรเฮลท์ Hydrohealth เพื่อวางแผนและทำการบำบัดเอาสารพิษออกจากร่างกายด้วยวิธีที่ทันสมัย ปลอดภัย และใช้เวลาไม่นาน ไม่ว่าจะเป็น การดีท็อกซ์ลำไส้ ตับ ผิว หรือแม้แต่การนวดดีท็อกซ์ที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายไปพร้อมๆ กับการขับสารพิษตกค้างในร่างกายออกมานั่นเอง